วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 ณ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวระดับเขตภาคเหนือ เนื่องในงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมีนายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ภาคีเครือข่า เกษตรกร เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า500 คน
โดยมีนายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อประเทศและสังคมไทยอย่างยิ่ง มีพื้นที่ปลูก กว่า 60 ล้านไร่ ประกอบด้วย ครัวเรือนชาวนาประมาณ 3.72 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 17 ล้านคน เป็นสินค้าส่งออกนำเงินเข้าประเทศประมาณปีละ 200,000 ล้านบาท นอกจากนี้ข้าวเป็นพืชอาหารหลักและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเป็นแหล่งก่อเกิดวัฒนธรรมประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวกับข้าวและชาวนา และเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการทำนา ที่อำเภอบางเขน และทอดพระเนตรกิจการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งได้ทรงหว่านข้าวด้วยพระองค์เองในแปลงนาหลังตึกขาว เกษตรกลางบางเขน จึงถือเป็นวันที่เป็นสิริมงคลต่อวงการข้าวและชาวนาไทย ด้วยเหตุผลความสำคัญดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 เห็นชอบให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ”
โดยกรมการข้าว ได้จัดงานมาแล้ว จำนวน 12 ครั้ง ตั้งแต่ ปี 2553 จนถึงปี 2564 ในปีนี้ กรมการข้าวได้กำหนดจัดงาน ทั้งที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยในเขตภาคเหนือ กำหนดจัดขึ้น ณ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 29 – 30 มิถุนายน 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการด้านข้าวและชาวนาของไทย ตลอดจนถ่ายทอดและนำเสนอองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตข้าว ที่ใช้ในการเพิ่มผลผลิต คุณภาพผลผลิต และการลดต้นทุนการผลิตข้าว จัดแสดงผลงานทางวิชาการด้านข้าว ของภาครัฐ เอกชน และองค์กรชาวนา โดยมุ่งเน้นความสำคัญของข้าว และเชิดชูเกียรติชาวนาไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตข้าวและพัฒนาองค์กรเกษตรกรสืบไป
โดยในงาน มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 นิทรรศการวิชาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การผลิตและการแปรรูปข้าว เครื่องจักรกลการเกษตร แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากข้าว แปลงสาธิตเทคโนโลยีการปลูกข้าว การประกวดแข่งขันการทำข้าวเหนียวมะม่วง การทำหุ่นไล่กา และการแข่งขันการนวดข้าวลีลา ของพี่น้องชาวนาภาคเหนือ
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภาคเกษตรวามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท โดย ข้าว มีสัดส่วนสร้างรายได้สูงถึง 200,000 ล้านบาท (ร้อยละ 20) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับข้าวและวิถีชีวิตของชาวนา จึงมีนโยบายในการพัฒนาศักยภาพชาวนา ให้สามารถผลิตข้าวคุณภาพ รวมทั้งยกระดับการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี เช่น การสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านข้าวทั่วประเทศ
การเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน การส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น การส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าวครบวงจร ครอบคุลมตั้งแต่การวางระบบการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพจนถึงด้านการตลาด นำไปสู่การสร้างความมั่นคงให้แก่ชาวนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวนาและยุวชนชาวนาซึ่งจะเป็นผู้สืบทอดการปลูกข้าวต่อไปในอนาคตอีกด้วย