เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม การท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้แถลงข่าวความคืบหน้ากรณี เครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2565 คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน ได้อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายอากาศยานเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ที่ผ่านมา โดยท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ได้ดำเนินการประสานงานกับสายการบินนกแอร์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการเคลื่อนย้ายอากาศยานโดยได้รับการสนับสนุนจาก Aircraft Recovery Team ของ บริษัท การบินไทยจํากัด (มหาชน) และได้เตรียมการเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ประสบอุบัติเหตุออกจากพื้นที่
โดยการปฏิบัติมีแผนการดำเนินการคือ 1. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายได้เนินการสร้างถนนชั่วคราวเพื่อใช้ในการรองรับการลากอากาศยานโดยใช้หินคลุกบดอัด และใช้เสื่อกู้อากาศยาน รวมทั้งแผ่นเหล็กรองรับน้ำหนักของอากาศยาน 2. บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) ได้ทําการถ่ายน้ามันเชื้อเพลิงออกจากอากาศยาน 3. Aircraft Recovery เข้าดำเนินการใส่เบาะลมที่ใต้หัวอากาศยานและอัดลมเพื่อยกขึ้นโดยการเตรียมการเคลื่อนย้ายอากาศยาน
นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าวอีกว่า ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายได้รับการสนับสนุนและความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่าง ๆ โดยเสื่อกู้อากาศยานพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกู้ภัยจากกรมท่าอากาศยานโดยท่าอากาศยานพิษณุโลก แผ่นเหล็กกู้อากาศยานจากกองทัพอากาศโดยกองบิน 41 มณฑลทหารบกที่ 37 นำกำลังพลจํานวน 60 นายแบ่งเป็นจํานวน 2 ผลัด ๆ ละ 30 นาย รถเทรลเลอร์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย รถ Mobile Lighting จากสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รถขบวนอุปกรณ์จากท่าอากาศยานพิษณุโลกจังหวัดเชียงรายและจากท่าอากาศยานเชียงใหม่มาจังหวัดเชียงรายโดยกองบัญชาตำรวจภูธรภาค 5 รถสุขาเคลื่อนที่จากเทศบาลนครเชียงราย และเต็นท์จำนวน 4 หลังเพื่อเป็นสำนักงานสนามจากหมู่บ้านปางลาว
นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าวด้วยว่า ในการกู้เครื่องบินตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนมาถึงดึกของคืนที่ผ่านมา ล่าสุดมีความก้าวหน้าไปแล้ว 60% โดยแบ่งออกไปเป็นความยากง่ายต่างกันโดยความคืบหน้า 30% แรก จะมีความยากที่สุด เพราะเป็นเรื่องของการประเมิน อีก 20% ยากรองลงมาเป็นเรื่องของการใส่อุปกรณ์ ที่เหลือ 10% ก็เป็นเรื่องการยกส่วนหน้าซึ่งเราสามารถทำได้เมื่อวานนี้นับว่าเป็นข่าวดี ที่เหลือ 40% ตอนนี้ไม่มีอุปสรรคแล้ว ตอนนี้เมื่อยกส่วนหน้าได้แล้วแล้วก็ลากเครื่องบินเปล่าที่มีน้ำหนัก 41 ตัน และน้ำหนักน้ำมันในเครื่องอีก 2 ตัน ให้ขึ้นมาบนลานวิ่งให้ได้ก่อน แล้วต้องใช้ความระมัดระวังในการลากอย่างช้าๆ เนื่องจากล้อหน้าเครื่องบินหัก ต้องใช้เทอร์เลอร์รองในการเคลื่อนย้ายและหลังจากเครื่องบินมาอยู่บนลานวิ่งแล้ว ก็จะทำการลากช้าๆ จากรันเวย์ผ่านทางขับและมาจอดยังหลุมจอดหมายเลข 7 ก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการกู้ ส่วนความเสียหายของสนามบินก็มีระบบไฟริมทางวิ่ง 3 หลอด ระบบท่อไฟ ฯลฯ แต่ก็ไม่กระทบมากนักซึ่งมีการซ่อมแซมควบคู่ไปกับการกู้เครื่องบินอยู่แล้ว ถ้าหากเป็นไปตามแผนก็จะสามารถเปิดใช้สนามบินได้ก่อนกำหนด
ปัจจุบันทุกฝ่ายได้เร่งการทำงานเพื่อให้ทางวิ่งสามารถกลับมาใช้งานได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้ จะสามารถนำเครื่องบินออกมาจากทางวิ่งได้ และจะได้เร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อเปิดให้บริการตามปกติ โดยหากสามารถทำได้ตามแผนการณ์ ก็จะสามารถเปิดให้บริการท่าอากาศยานได้ตามปกติในวันที่ 3 ส.ค.นี้
นาวาอากาศตรี สมชนก ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เมื่อสามารถยกหัวเครื่องบินขึ้นมาแล้ว ต้องมีการตรวจสอบว่า ขาของเครื่องบิน หรือจุดเชื่อมต่อล้อเครื่องหักหรือไม่ หากมีการหักเสียหายจะต้องนำ รถเทรลเลอร์ มาเชื่อมต่อจากนั้นทำการลากออกจากจุดที่ไถลลงไปในดินข้างรันเวย์ แต่ด้วยความที่พื้นดินอ่อนนุ่มจากฝน อาจต้องใช้เวลา เพราะเครื่องบินมีน้ำหนักมากถึง 60 ตัน และทีมที่ดำเนินการจะทำการขับเคลื่อนในเวลา 14.00 น. วันนี้ และช่วงเย็นนี้หากเคลื่อนย้ายได้สำเร็จ จะทำเรื่องของเปิดสนามบินทันที พร้อมทำความสะอาดรันเวย์ เพื่อเปิดบิน 3 สิงหาคม นี้
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ดำเนินการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์อากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง โดยได้จัดสนับสนุนรถรับ-ส่งผู้โดยสารที่ตกค้าง ที่ไม่สามารถเดินทางโดยรถที่สายการบินจัดหาไว้ให้และผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานปลายทางร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อีกทั้งรถแท็กซี่มิเตอร์และแท็กซี่ลีมูซีนให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมร้านค้าให้บริการสําหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่โดยให้บริการถึงเวลา 22.00 น. และ ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารในการยกเลิกการเรียกเก็บค่าบริการจอดรถยนต์
“สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ได้ตีความเป็นเม็ดเงิน แต่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มุ่งไปที่เรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารและแก้ไขปัญหาฉุกเฉินก่อน ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าผ่านพ้นไปด้วยดีโดย ไม่มีผู้ได้รับอันตราย และในฐานะที่ผมเคยเป็นนักบินผ มก็ให้เครดิตกับนักบินของเครื่องบินลำนี้ด้วย ส่วนความเสียหายหากคิดกันเร็วๆ แล้วที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีเที่ยวบินวันละ 36 เที่ยวบิน ซึ่งมีเครื่องโบอิ้งจำนวนมาก แต่ละเครื่องรองรับผู้โดยสารประมาณ 180 คน หากเราเอาจำนวนเหล่านี้มาคูณกันแล้วคูณด้วยระยะเวลา 3 วันที่ปิดทำการก็จะเป็นค่าเสียหายดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำงานกันทั้งคืนเพื่อหวังให้เปิดทำการบินได้ก่อนกำหนดเวลา 1 วันต่อไป” นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าว