เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2565 เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้ปฏิบัติการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตรงพื้นที่หมู่บ้านลิเซ หมู่ 9 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน เชียงราย ขับลงมาจากภูเขามุ่งหน้าจะไปทางพื้นราบจึงให้สัญญานหยุตตรวจพบคนขับชื่อว่านายธนาพล มีตำแหน่งเป็นกำนันในพื้นที่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจพบที่กระบะหลังรถบรรทุกคนไปเต็มคันโดยแต่ละคนมีรูปพรรณสันฐานไม่เหมือนคนไทยและใช้ภาษาจีนในการสื่อสารอีกต่างหากเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามก็ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย
เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบปรากฎว่าทั้งหมดเป็นชายชาวสัญชาติจีนรวมจำนวน 9 คน ซึ่งพึ่งหลบหนีเข้าเมืองมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้หลบหนีเข้ามาทางช่องทางผาขาว ประเทศเมียนมา ติดกับหมู่บ้านลิเซ จากนั้นได้ติดต่อให้ผู้นำพาไปรับเพื่อจะเดินทางต่อไปยัง อ.เมืองเชียงราย แลกกับค่าจ้างคนละ 1,000 บาท
จนกระทั่งต่อมาได้มีรถไปรับที่ชายแดนและพาไปส่งต่อให้กับนายธนาพล ขับเดินทางกระทั่งมาเจอกับเจ้าหน้าที่ทหารดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบสัมภาระของชาวจีนทั้งหมดพบมีโทรศัพท์มือถือจำนวน 45 เครื่อง บัตรเครดิตจำนวนมาก และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
สอบถามเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดทำงานในเครือข่ายของขบวนการโทรศัพท์หรือใช้สื่อออนไลน์ชักชวนให้คนไปลงทุนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแต่ปรากฎว่าในปัจจุบันทางการเมียนมาได้ออกปราบปราบแก๊งดังกล่าวอย่างหนัก ทำให้ทั้งหมดได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่เมียนมาเข้ามายังประเทศไทยและถูกเจ้าหน้าที่ทหารไทยสกัดได้เสียก่อนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทหารจึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนนายธนาพล บอกกับเจ้าหน้าที่ทหารว่าตนอยู่ที่บ้านแต่ได้มีคนพาชาวจีนทั้ง 9 คน ไปหาตนเองเพื่อขอให้พาไปส่งที่พื้นราบ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ตนคิดว่าทั้งหมดมีหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ตครบถ้วนและไม่ทราบว่าหนีเข้าเมืองมาทางช่องทางไหน เจ้าหน้าที่ทหารจึงแจ้งอยู่ระหว่างสอบปากคำและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.