พยากรณ์อากาศ 7 วัน | ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 2 – 8 เมษายน 2566

คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 2 – 8 เมษายน พ.ศ. 2566

ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้

ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป  สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 8 เม.ย. 66 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วยไว้ด้วย

(ออกประกาศ 02 เมษายน 2566 12:00 น.)

สภาวะอากาศและผลกระทบต่อการสะสมฝุ่น PM2.5

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 2 – 8 เมษายน พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 2 – 7 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค 
ลมตะวันตก ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 42 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 40 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
ในช่วงวันที่ 2 – 5 และ 8 เม.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 66 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 60  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 39 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ 
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน 
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
ลมใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 40 องศาเซลเซียส 
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 39 องศาเซลเซียส 
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 เม.ย. 66 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส

(ออกประกาศ 02 เมษายน 2566 12:00 น.)

//กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/forecast/sevenday