“ห้ามเผา” จังหวัดเชียงรายขยายเวลา ห้ามเผา ไปจนถึง 30 เมษายน 2566

จังหวัดเชียงรายขยายเวลา ห้ามเผา ไปจนถึง 30 เมษายน 2566

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ เพื่อสรุปสถานการณ์และวางแผนดำเนินการในอนาคตหลังจากที่ จ.เชียงราย เคยประกาศเผาในที่โล่งทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.นี้ หรือเป็นเวลา 60 วันและกำลังจะหมดระยะเวลาลง ขณะที่สถานการณ์การเกิดไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงเกิดขึ้นอีกหลายจุด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมายังเกิดไฟป่าขึ้นในหลายอำเภอโดยมีจุดความร้อนหรือ Hot Spot รวมจำนวน 191 จุด โดยพื้นที่ที่พบมากที่สุดคือป่าเขต อ.แม่สรวย จำนวน 59 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 43 จุด อ.เมืองเชียงราย จำนวน 19 จุด ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคงระดมกำลังกันเข้าดับไฟป่าไฟพร้อมทำแนวกันไฟอย่างต่อเนื่องแม้จะมีเฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานสนับสนุนการโปรยน้ำตามจุดต่างๆ ก็ตาม

ซึ่งที่ประชุมมีกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน เช่น นายวรดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชุติเดช กมนณชุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) นายสมเกียรติ ปูกา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) จ.เชียงราย ฯลฯ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าในช่วงเวลาห้ามเผาดังกล่าวพบว่าเกิดจุดความร้อนขึ้นระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-10 เม.ย.นี้ แล้วจำนวน 5,259 จุด โดยอยู่ในอันดับ 5 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือนับจากน้อยไปหามาก ส่วนจังหวัดที่พบมากที่สุดคือ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 10,423 จุด และทั้งหมดมีรวมกันจำนวน 56,966 จุด

ขณะที่ จ.เชียงราย มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวมจำนวน 1,462,521 ไร่ และป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 2,764,452 ไร่ และเมื่อรวมพื้นที่อื่นๆ เช่น สปก.ริมทางหลวง ฯลฯ มีอยู่รวมกันกว่า 7,237,464 ไร่ ปรากฎว่าที่ผ่านมาถูกไฟไหม้ไปแล้วจำนวน 160,000 ไร่ และยังมีพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าขึ้นอีกถึง 1,523,877 ไร่ โดยอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์จำนวน 422,694 ไร่ ป่าอนุรักษ์จำนวน 805,438 ไร่ ที่เหลือเป็น สปก.ป่าชุมชน พื้นที่ริมทางหลวง ฯลฯ ขณะที่สภาพอากาศพบว่ายังร้อนอย่างต่อเนื่องโดยช่วงเย็นวันเดียวกันนี้อุณหภูมิสูงถึง 33 องศาเซลเซียส และยังไม่มีฝนตกลงมานานหลายสัปดาห์รวมทั้งไม่มีพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกลงมาในเร็ววันนี้ ดังนั้นนายพุฒิพงศ์และคณะกรรมการศูนย์ฯ จึงได้ประกาศให้ขยายระยะเวลาการประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดไปอีก 15 วัน หรือจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อให้มีการควบคุมการเผาและเจ้าหน้าที่จะได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่าสภาพอากาศทั่วไปใน จ.เชียงราย พบว่าความหนาแน่นของฝุ่นละอองและหมอกควันลดลง แต่ก็ยังขะมุกขะมัวและกรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศในเวลา 18.00 น.วันเดียวกันว่าเขต อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณฝุ่นขนาด PM 2.5 วัดได้ 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเกินมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพ 11 วันติดต่อกันและตั้งแต่ช่วงประกาศห้ามเผามีค่าเกินมาตรฐานรวม 36 วัน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา วัดได้ 197 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานติดต่อกัน 11 วันและนับตั้งแต่ประกาศห้ามเผารวม 46 วัน ต.เวียง อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว วัดได้ 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 14 วันติดต่อกันและตั้งแต่ประกาศห้ามเผารวม 46 วัน.

ทั้งนี้การเผาในที่โล่งทุกชนิดหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2560) ห้ามการเผาในพื้นที่ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ห้ามการเผาในเขตทาง พื้นที่ริมทางหลวง และทางหลวงท้องถิ่น

หากฝ่าฝืนจะมีโทษ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ห้ามไม่ให้มีการเผาใดๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด หากตรวจพบว่าพื้นที่ใดมีไฟและเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ขึ้น ให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่นั้น และนายอำเภอท้องที่ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อรายงานสถานการณ์พร้อมแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไป

กรณีพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดังนี้

  • ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย/สถานี
  • ตำรวจภูธรทุกแห่ง สายด่วน 191
  • ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า (สบอ.15) สายด่วน 1362 หรือโทร 053-712603
  • สายด่วนทางหลวง 1586
  • สายด่วนทางหลวงชนบท 1146

โดยผู้แจ้งเบาะแสในการกระทำผิดกฎหมาย และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ให้ผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินรางวัลนำจับจากศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงราย ตามระเบียบแนวทางที่กำหนดไว้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
มาตรการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยง จังหวัดเชียงราย ปี 67 ระหว่างวันที่ 1-30 พฤษภาคม 2567 หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามแผนที่กำหนดของจังหวัด แจ้งเบาะแส และมีรางวัลนำจับ 5,000 บาท
กำหนดการเผาในที่โล่ง เริ่มเดือนพฤษภาคม 2567
เชียงรายคุมเข้มต่อเนื่อง ผู้ว่าฯ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ทุกมาตรการในห้วงห้ามเผาเด็ดขาด ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก
เชียงรายเริ่มแล้ว 15 ก.พ.67 “ห้ามเผาเด็ดขาด” ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ (ผู้แจ้งเบาะแสมีรางวัลนำจับ 5000 บาท)
เชียงรายประกาศ “ห้ามเผา” ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 30 เมย.2567
เชียงรายไฟป่าไม่หยุด PM2.5 เกินมาตรฐาน ขยายประกาศ “ห้ามเผา” ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2566