จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในระยะนี้ ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างพากันหลั่งไหลเดินทางไปท่องเที่ยวยังลำห้วยแม่สรวย บริเวณหน้าเขื่อนแม่สรวย ต.ม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงรายกันอย่างคึกคัก ซึ่งปัจจุบันทางกรมชลประทานได้ดำเนินโครงการทำพนังกั้นแนวตลิ่งใหม่ตลอดแนวอย่างสวยงาม และทางชุมชนได้เข้ามาทำจัดซุ้มที่นั่งให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามานั่งเล่น เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารตลอดสองฝั่งลำน้ำร่วม 30 ร้านค้า
ทำให้บรรยากาศที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สุดคึกคัก มีนักท่องเที่ยวละประชาชนทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่พาครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนกลุ่มเพื่อนฝูงเข้าไปจับจองพื้นที่เพื่อเล่นน้ำกันจนเต็มทุกร้าน เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นสายน้ำที่เย็นฉ่ำเพราะเป็นน้ำที่ถูกปล่อยมาจากตัวเขื่อนแม่สรวย จึงทำให้น้ำเย็นกว่าลำน้ำทั่วไป อีกทั้งที่นี่ยังมีการนำ “แพยาง” หรือ ที่ทางชุมชนเรียกว่า “แพเปียก” มาบริการนั่งท่องเที่ยวได้ล่องแพไปตามลำน้ำแม่สรวย สร้างความสนุกสนานและสามารถเที่ยวชมธรรมชาติสองริมฝั่งของลำน้ำแม่สรวยได้อีกด้วย
นายซิน มณีวรรณ ประธานกลุ่มรักษ์ลุ่มน้ำแม่สรวยและผู้ก่อตั้งแพเปียกแม่สรวย กล่าวว่า “แพเปียกแม่สรวย” ได้เริ่มต้นมาตั้งปี 2561 แล้ว ช่วงแรกดำเนินการโดยชุมชนจัดทำ “แพไม้ไผ่” มาให้บริการ แต่เนื่องด้วยตอนนั้นลำน้ำแม่สรวยตื้นเขิน ซึ่งแพไม้หนักทำให้ล่องลำบาก ต่อมาทางชลประทานมีการขุดลอกและจัดทำตลิ่งลำน้ำใหม่ ขณะที่คนในชุมชนเห็นหลายพื้นที่นำแพยางมาบริการ จึงนำมาลองเปิดให้บริการใหม่ในปี 2565 แรกๆ มีผู้ให้บริการประมาณ 3-4 รายเท่านั้น ซึ่งได้รับผลตอบรับดี ปีนี้คนจากหลายชุมชนให้ความสนใจจึงเข้ามาเปิดให้บริการกันมากขึ้นตอนนี้มีอยู่ประมาณ 20 กว่าราย จึงทำให้ปีนี้คึกคักกว่าทุกปี
นายซิน กล่าวว่าสถานที่แห่งนี้ยังดำเนินการโดยชุมชน โดยพื้นที่
– คิดค่าบริการที่จอดรถ 20 บาท
– ซุ้มสำหรับรับประทานอาหาร 100 บาทต่อซุ้ม (ไม่จำกัดเวลา)
– สามารถนำอาหารเครื่องดื่มมานั่งรับประทานได้ หรือจะสั่งที่ร้านค้าในพื้นที่ก็ได้
– ค่าแพคิดในอัตราเหมา 800 บาท ต่อแพหนึ่งลำ นั่งได้ไม่เกิน 7 คน หากเกินคิดเพิ่มคนที่เกินอีกคนละ 120 บาท
– โดยพื้นที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น.
– แพเปิดให้ล่องประมาณ 09.00 น. – 19.00 น. ของทุกวัน
– เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม -เมษายนนี้เท่านั้น
หลังจากนั้น จะต้องเก็บร้านค้าและบริการต่างๆ เพราะทางชลประทานจะต้องระบายออกจากเขื่อนซึ่งจะทำให้น้ำมาก อย่างไรก็ตามเฉพาะช่วงสงกรานต์นี้คาดว่าจะมีรายได้เข้าชุมชนไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท
ภาพ/ข่าว สนุกดอทคอม https://www.sanook.com/travel/1437227/