สำหรับใครอยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการขับรถยนต์ข้ามประเทศท่องเที่ยว สัมผัสวิถีแห่งเมืองเก่าแก่ ที่หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ของสปป.ลาว โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปได้ง่ายๆ โดยจุดเริ่มต้นเดินทางจากเชียงรายไปเข้าที่ด่านพรมแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน แล้วเข้าด่านน้ำเงิน เมืองไชยะบุรี สปป.ลาว ใช้เส้นทางถนนสาย R4B สู่เมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเส้นทางการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและเป็นประตูสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคอาเซียน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และมีระยะทางที่ไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางไม่นาน จากด่านนี้ไปถึงเมืองหลวงพระบางระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ถ้าเราอยู่เชียงรายแล้วข้ามทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพที่ อ.เชียงของ จะต้องขับรถอ้อมและระยะทางไกลมากกว่าจะถึงหลวงพระบาง จึงเลือกไปเข้าที่ด่านห้วยโก๋นแทน ถนนค่อนข้างดี รถไม่ค่อยเยอะด้วย โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ถนน 4B ไม่มีรถบรรทุกพ่วงวิ่งบนถนน เติมน้ำมันเต็มถังขับเที่ยวไปกลับ ได้สบายครับ
สบายดี หลวงพระบาง https://www.chiangraifocus.com/25489/
ในส่วนของการเดินทางก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ก่อนอื่นต้องมาดูกันว่าการจะขับรถข้ามประเทศได้จะต้องเตรียมอะไรบ้าง หากใครหาข้อมูลตรงนี้อยู่ ไปอ่านมาหลายเว็บ หลายเพจ ส่วนใหญ่เอกสารก็จะคล้ายๆกัน …ข้อมูลล่าสุดที่เขียนนี้ เดินทางในปลายเดือนตุลาคม 2566 ข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ตรงกับเว็บอื่นรีวิว แต่เอกสารหลักๆก็จะใช้เหมือนกัน อาจจะยาวหน่อยครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทาง
แบ่งแยกเป็นเอกสารของรถยนต์และของคนเดินทาง
1.เอกสารรถยนต์ ได้แก่พาสปอร์ตรถ ไปทำได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง เห็นว่าจังหวัดอื่นทำ 1 วันเสร็จ แต่ผมทำที่เชียงรายใช้เวลาทำ 2 วัน ( ทำ 1 วัน แล้วนัดไปรับอีกวัน ) ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ 95 บาท จะได้เล่มม่วง สติกเกอร์ตัว T และก็เอกสารรถแปลเป็นภาษาอังกฤษ
ปล.ภาษีรถยนต์ต้องเหลือไม่น้อยกว่า 90 วัน ถ้าเหลือน้อยกว่านี้ต้องไปต่อภาษีก่อน ถึงจะทำพาสปอร์ตรถยนต์ได้
2.เอกสารคน ได้แก่พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทาง ใครยังไม่มี ไปทำได้ที่สำนักงานหนังสือเดินทาง เชียงราย ในห้างเซ็ลทรัลเชียงราย เปิดจันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00 น. เบอร์โทร 053 179 917 ค่าใช้จ่าย คนละ 1,000 บาท ทำเสร็จใช้เวลา 1 อาทิตย์ ส่งมาให้ถึงบ้าน
เอกสารที่ต้องเตรียม
ทุกอย่างแบ่งเป็น 2 ชุด สำหรับยื่นให้ ตม. และศุลกากร ที่ด่านไทยและลาว เซ็นต์รับรองสำเนาให้เรียบร้อย
1. สำเนาทะเบียนรถที่ไม่ค้างชำระภาษีประจำปี จำนวน 2 ชุด
2. สำเนาหน้าเสียภาษี (หน้า 16 )จำนวน 2 ชุด
3. สำเนาหน้ารายการบันทึกของเจ้าหน้าที่ (หน้า 18) จำนวน 2 ชุด
4. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของรถ จำนวน 2 ชุด
5. แบบ ตม.2 จำนวน 2 ชุด โหลดจากลิงก์นี้แล้วกรอกไปเลยก็ได้ หรือจะไปขอที่หน้าด่านก็ได้
https://www.immigration.go.th/wp-content/uploads/simple-file-list2/form-download/1486546828049.pdf
6. แบบ ตม. 3 จำนวน 2 ชุด
https://www.immigration.go.th/wp-content/uploads/simple-file-list2/form-download/1486547121721.pdf
7. แบบ ตม. 4 จำนวน 2 ชุด
https://www.immigration.go.th/wp-content/uploads/simple-file-list2/form-download/1486547646919.pdf
สำหรับใครที่กังวล กลัวเตรียมเอกสารต่างๆไม่ถูกต้อง ไม่ต้องห่วงครับ บริเวณหน้าด่าน ก่อนถึง ตม. 100 เมตรมีร้านถ่ายเอกสาร เพียงแค่เราเตรียมเล่ม พาสปอร์ตคน,พาสปอร์ตรถยนต์,คู่มือรถยนต์เล่มจริง ไปให้ทางร้าน มีค่าบริการ 150 บาท ทางร้านจัดการถ่ายเอกสารทุกอย่าง แยกเป็นชุดสำหรับนำไปยื่นได้เลย
สิ่งที่ควรรู้ :
– ขับรถในลาว ต้องขับเลนขวา ใช้ความระมัดระวัง คนหรือสัตว์เลี้ยงที่อยู่บนท้องถนน ไม่ค่อยจะหลบรถเท่าไหร่
– หลวงพระบางใช้เงินกีบ สามารถใช้เงินบาทไทยได้ แต่แนะนำแลกเป็นเงินกีบไปใช้จ่ายจะดีกว่า ณ วันที่ไป (24 ต.ค66) 1 บาท แลกได้ 630 กีบ ไปหาแลกทีละ 1000-2000 บาทก็ได้ ใกล้หมดก็หาที่แลกใหม่
– จุดแลกเงินกีบ ถ้าเริ่มเข้าด่านลาวส่วนใหญ่ร้านค้าก็มีให้แลก ในตัวเมืองหงสา ห่างจากด่านประมาณ 40 กิโลเมตร ก็จุดแลกเงินสังเกตุป้าย exchang เอาก็ได้ หรือแลกตามร้านขายโทรศัพท์ ร้านค้าใหญ่ๆก็ได้ อัตราแลกเปลี่ยนอาจจะได้มากหรือน้อยไม่เท่ากัน จะไปแลกในตัวเมืองหลวงพระบางก็ได้ มี exchang ไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง
– แม้ว่าค่าเงินกีบจะถูก แต่ราคาสินค้าและบริการต่างๆก็ใกล้เคียงกับบ้านเรา
– ไปกี่วันควรซื้อประกันรายวันให้ครอบคลุมการเดินทาง เพราะอาจเจอด่านตรวจขอดูประกันภัยรถ หรืออย่างน้อยก็ป้องกันตัวเอง เผื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
– ซิมการ์ดโทรศัพท์ มีร้านค้าตามข้างทางหลายร้าน หรือซื้อที่ด่าน ตม.ลาว ก็ได้ ร้านโทรศัพท์ใหญ่ๆศูนย์ OPPO ในเมืองเงิน หรือหงสา ก็มีจำหน่าย
– จากด่านไปถึงเมืองหงสา มีปั๊ม ปตท. มีกาแฟอเมซอน จอดพักรถ พักคนได้ แต่ไม่มีเซเว่น ใครที่คิดว่าตัวเองกินยาก ก็เตรียมซื้อเสบียงมาจากด่านห้วยโก๋นไว้เลย
เริ่มเดินทาง…
!! พร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกันได้เลย ติดสติกเกอร์ตัว T ที่ได้จากตอนไปทำพาสปอร์ตรถ ด้านหน้า-หลังให้เรียบร้อย และก็ใช้เส้นทางไหนก็ได้ให้ไปถึงด่านชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ตั้งพิกัดแผนที่ใน google ก็ได้ ด่านพรมแดนห้วยโก๋น ผมเดินทางจากเชียงรายช่วงเช้ามืด ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงถึงด่านวิ่งเส้น-เทิง-เชียงคำ-อ.สองแคว และแวะเติมน้ำมันให้เต็มถัง หรือจะไปเติมที่ อ.เชียงกลาง ก็ได้ พิกัดปั๊มบางจาก หากขับเลยปั๊มนี้ไปก็ต้องไปวนหาเติมใน อ.ทุ่งช้าง หรือข้ามไปในประเทศลาวเลยนะครับ น้ำมันที่ประเทศลาว แพงกว่าไทยเราหลายบาท ดังนั้นระยะทางจากด่านไปถึงปลายทาง 100 กว่าโล เราเติมเต็มถัง แล้วขับไป-กลับได้เลย
ก่อนถึงด่านชายแดน บริเวณหน้า อบต.ห้วยโก๋น จะมีร้านอาหาร มีเซเว่น แวะซื้อของที่จำเป็นให้เรียบร้อย สิ่งสำคัญในการขับยนต์ข้ามลาวคือ ต้องซื้อประกันภัยทางฝั่งลาวไปด้วย ไปกี่วันก็ซื้อตามระยะเวลา ของผมไป 7 วัน 300 บาท ซื้อได้ที่ร้านถ่ายเอกสาร และให้ทางร้านตรวจเช็คเอกสารที่เตรียมไปอีกครั้ง และก็แลกเงินลาวจากทางร้านไปส่วนหนึ่งเพื่อเป็นค่าใช้ในการข้ามแดนฝั่งลาว ร้านถ่ายเอกสารคุณพิมพ์ไม่มีป้ายบอก แต่ก็หาไม่ยาก อยู่ห้องแถวหากหันหน้าเข้า สังเกตุอยู่ห้องแรกซ้ายมือก่อนถึงด่านไทยประมาณ 100 เมตร ไม่แน่ใจวันเวลาเปิดปิด จะโทรสอบถามก่อนก็ได้เบอร์ร้าน 084-950-8751
เริ่มขับรถไปจอดหน้าทางเข้าด่าน นำเอกสารชุดแรก เข้าไปยัง ตม. เลยป้ายกิโลยักษ์ไปนิดนึง ไม่ต้องกลัวเข้าผิดช่อง เขาบังคับให้เดินเข้าไปได้ช่องเดียวเท่านั้น จอดรถไว้แล้วให้ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถเข้าไปยื่นหนังสือเดินทาง สแกนลายนิ้วมือ ชำระค่าธรรมเนียม ผมไป 4 คน พ่อ-แม่ และลูก 2 คน เสีย 80 บาท
จากนั้นก็นำเอกสารอีกชุดที่เตรียมมา ไปยื่นที่ศุลกากร อยู่ห้องติดกันนั่นแหละ จุดนี้ไปยื่นเฉพาะคนขับรถ ผู้โดยสารเดินผ่านไปรอขึ้นรถด้านหน้า จากนั้นศุลกากร จะให้เอกสารมา 1 แผ่น เก็บติดรถยนต์ไว้ให้ดีห้ามหายเด็ดขาด เพราะต้องมาคืนตอนขากลับ …ขั้นตอนทางฝั่งไทย หมดแล้วครับ เราก็เดินกลับไปขับรถยนต์ที่จอดไว้ข้ามชายแดนได้เลย
ฝั่งไทยไม่ค่อยมีปัญาหา ทีนี้เริ่มเข้าเขตลาว ผมก็พึ่งเคยเข้าด่านนี้ครั้งแรก ไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนเลนรถ ต้องเปลี่ยนตอนไหน ช่วงไหน ไม่เหมือนทางด่านพรมแดนเชียงของ ไปวันธรรมดาถนนโล่งไม่มีรถข้างหน้าด้วย ลืมถามเจ้าหน้าที่อีก แต่ก็ใช้วิธีสังเกตุเอา ผ่านด่านไทยมาจะขึ้นเนิน พอพ้นเนินเห็นมีรถพ่วงจอดอยู่ฝั่งขวาจอดอยู่ข้างทางหันหน้าไปทางฝั่งลาว ก็เปลี่ยนขับเลนขวา ไปอีกนิดก็จะถึงไม้กั้นฝั่ง สปป.ลาว
เมื่อขับรถถึงไม้กั้น ด่านแรกของลาว ผู้โดยสารต้องลงจากรถ แล้วเดินผ่านเข้าไป คนขับก็ขับรถยนต์ไปจอดตรงหน้าเสาธงรอ ทำทุกอย่างเหมือนไทย เข้าครั้งแรกอาจจะงงๆกันนิดหนึ่งกับขั้นตอนตรงนี้ เพราะไม่รู้จะไปห้องไหนก่อน
ให้ทุกคนเดินเข้าไปกรอกเอกสารเข้าลาวและยื่นสแตมป์พาสปอร์ตขาเข้า ที่ ตม.ลาว ในห้องนี้ในช่องขาเข้า ( ด้านในจะมีช่องขาเข้าและขาออก พอดีเขาห้ามถ่ายรูป ) หลังจากนั้นชำระค่าบริการ เทียบเป็นเงินไทยไม่ถึง 100 บาทครับ ถ้าจะให้ง่ายก็ใช้บริการที่ร้านถ่ายเอกสารของคุณพิมพ์ ก่อนเข้าด่านไทยนั่นแหละครับ เขาจัดเตรียมกรอกให้เรียบร้อยแล้ว เราไม่ต้องกรอกอะไรอีก มีหน้าที่แค่ถือมายื่นเท่านั้น
เสร็จจากห้อง ตม.ลาว ก็ให้มาที่ห้องศุลกากร ไปแต่คนขับรถก็ได้ เป็นการออกเอกสารศุลกากรสำหรับรถยนต์ หรือ D53 ซึ่งจะได้ เป็นสติกเกอร์ หรือเพื่อความรวดเร็วสามารถแจ้งภาษีพาหนะท่องเที่ยวแบบออนไลน์ในระบบ D53 ในวันเดินทางก็ได้ โดยเข้าไปที่ลิงค์ https://vcust.gov.la แล้วปริ้นเอกสารเอาไปยื่นหน้าห้อง ชำระค่าบริการ แล้วได้เป็นสติกเกอร์ เพื่อเอาไว้ไปยื่นตรงไม้กั้นที่สอง และสแกนตอนขากลับด้วย ห้ามทำหายเด็ดขาด เก็บไว้เหมือนเอกสารศุลกากรฝั่งไทยแต่ลาวจะเป็นสติกเกอร์ ให้เก็บไว้ในรถ ไม่ใช่แกะไปติดรถยนต์นะครับ หากกรอกออนไลน์จะไปวันไหนก็ให้ทำรายการในวันที่เดินทางเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายก็แล้วแต่ว่าเราไปกี่วัน ผมระบุไป 7 วัน จำยอดเงินกีบไม่ได้ แต่ประมาณไม่เกิน 150 บาทไทย จะใช้เน็ตก็ซื้อซิมการ์ดที่ห้องนี้ได้เลย
หลังจากได้สติกเกอร์ D53 ตอนนี้ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรแล้ว ขับรถเลนส์ขวา ออกไปเจอไม้กั้นอีก ก็ให้ทุกคนลงจากรถ ยื่นพาสปอร์ตและเอกสารที่เราได้จาก ตม.ลาว ให้เจ้าหน้าที่ดู เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยถูกต้อง ไม้กั้นเปิดก็ขับไปได้เลย ใครยังไม่ได้ซื้อประกันภัยก่อนเข้ามา ก็หาซื้อได้จากหมู่บ้านข้างหน้า
สรุปขั้นตอนจากไทยเข้าลาว
เราจะเตรียมเอกสารไว้ 2 ชุด
ฝั่งไทย ไปยื่นเอกสารชุดแรก ที่ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เสร็จแล้วชำระเงิน และก็ไปยื่นเอกสารชุดที่สอง ให้กับศุลกากร อยู่ห้องติดกัน ไปครั้งแรกรถยังไม่มีประวัติอาจใช้เวลาทำฐานข้อมูลนานหน่อย
ค่าใช้จ่าย : มีค่าใช้จ่ายเฉพาะคนเข้า รถยนต์ไม่เสีย ขากลับ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ฝั่งลาว ไปกรอกเอกสารและยื่นหนังสือเดินทาง ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เสร็จแล้วชำระเงิน และก็ ไปออกสารสำหรับรถ D53 ห้องข้างๆ เสร็จแล้วชำระเงิน จะได้สติกเกอร์เอาไปแสดง ตอนขาออกไม้กั้นที่สอง
ค่าใช้จ่าย : ขาเข้าประเทศตามจำนวนคน และรถยนต์ ตามจำนวนวันที่ไป ขากลับ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เสร็จทุกอย่างเก็บเอกสารไว้ให้ดี แยกออกจากสารอื่นๆที่ไม่ได้ใช้ออกไป โดยเฉพาะเอกสารที่ได้จากศุลกากรไทยและสติกเกอร์ลาว จะได้ไม่ลนลานหาไม่เจอตอนขากลับ ที่เจ้าหน้าที่ขอดู
สรุปขั้นตอนขากลับจากลาว เข้าไทย
เตรียมเอกสารที่ได้จากศุลกากรไทย และสติกเกอร์จากศุลกากรลาว ให้เรียบร้อย
ฝั่งลาว ไปจอดรถที่หน้าเสาธง เหมือนตอนขามา เข้าไปที่ห้อง ตม.เหมือนเดิม เอาหนังสือเดินทางไปสแตมป์ออก ที่ช่องขาออก หรือตรงช่องจะเขียนว่า departure เสร็จแล้ว ก็ไปยื่นสติกเกอร์ ตรงไม้กั้นที่สอง เพื่อสแกนออก เสร็จแล้วก็ขับรถออกจากด่านลาว มาถึงไทย ก็ลงจากรถเหมือนเดิม เข้าไปยื่นแสตมป์พาสปอร์ต และตามด้วยคืนเอกสารให้ศุลกากร ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ถ้ายังงง ก็ลองอ่านกันอีกรอบก็ได้ ขั้นตอนจริงๆไม่ได้ยุ่งยากมากมาย ทุกอย่างจะบังคับเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ยื่นตรงนี้ กรอกตรงนั้น สแตมป์เข้าก็ต้องมีการสแตมป์ออก อ่านตัวหนังสือลาวไม่ออกก็ดูที่ภาษาอังกฤษก็พอจะเข้าใจได้อยู่ ไม่เข้าผิด ไม่หลงแน่นอน ^-^
สำหรับการเดินทางจากด่านไปหลวงพระบาง อ่านต่อได้ที่นี่…สบายดี หลวงพระบาง https://www.chiangraifocus.com/25489/