หลวงพระบางยังน่าเที่ยวไหม ? เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนอยากไปสัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลกแห่งนี้ ผมเองเคยไปครั้งแรกราวๆเกือบสิบปี วันนี้เลยลองไปอีกครั้ง เมืองนี้ก็แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อหลายปีก่อน กิจกรรมหลายๆอย่าง เช่นการตักบาตรข้าวเหนียว ยังมีเหมือนเดิม แหล่งท่องเที่ยวก็ยังเหมือนเดิม และช่วงนี้ค่าเงินบาทของลาวอ่อนลงมาก อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 24 ต.ค 66 ค่าเงิน 1 บาท แลกจากร้านค้าข้างนอกได้ 630 กีบ หากแลกในธนาคารน่าจะได้เยอะกว่านี้ จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าไปเที่ยว สปป.ลาว ช่วงนี้ ใช้งบประมาณ 5,000 บาทก็เที่ยว 2-3 วันได้สบาย น้ำมันรถยนต์เติมเต็มถัง ( 80 ลิตร) ไป-กลับ ยังเหลือ
ทริปนี้เป็นการเริ่มต้นเดินทางด้วยรถยนต์ขับเที่ยวในต่างประเทศ ที่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ทางด่านพรมแดนห้วยโก๋น จ.น่าน แล้วเข้าด่านน้ำเงิน เมืองไชยะบุรี สปป.ลาว ใช้เส้นทางถนนสาย R4B สู่เมืองหลวงพระบาง เป็นเส้นทางการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและเป็นประตูสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเมืองหลวงพระบาง ห่างจากด่านนี้ประมาณ 150 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ดังนั้นจึงใช้เวลาเดินทางราวๆ 3-4 ชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งถ้าเราอยู่เชียงรายแล้วข้ามทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพที่ อ.เชียงของ จะต้องขับรถอ้อมไปอีกหลายเมืองและระยะทางไกลมากกว่าจะถึงหลวงพระบาง จึงเลือกไปเข้าที่ด่านห้วยโก๋นแทน เติมน้ำมันเต็มถังขับเที่ยวไปและกลับ ได้สบายครับ นับว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว หากสนใจขับรถเที่ยว เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ดูที่ลิงก์นี้ได้ https://www.chiangraifocus.com/25413/
จุดเริ่มต้นจากด่านน้ำเงิน ของ สปป.ลาว สิ่งสำคัญคือการขับรถ จะต้องขับรถเลนขวาและเราต้องใช้เน็ตในมือถือ ในการดูแผนที่ google เพื่อจะได้ไม่หลง และหาจุดต่างๆได้ง่ายนั่นเอง เมื่อขับรถออกจากด่านมาแล้ว จะอยู่บนถนน R4A หากยังไม่ได้ซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ สามารถแวะซื้อที่เมืองเงิน ห่างจากด่านราวๆ 4-5 กิโลเมตร มีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกราวๆ 1 กม. จะมีร้านขายโทรศัพท์ใหญ่ๆเป็นศูนย์ OPPO Sumsung เข้าไปซื้อซิมการ์ดได้เลย และจะแลกเงินกีบที่ร้านติดไปด้วยก็ได้ หรือหากขี้เกียจเลี้ยวเข้าไป จะมุ่งตรงไปยังเมืองหงสา ราวๆ 40 กิโลเมตร ก็มีขายเหมือนกัน แต่ถ้าไปครั้งแรกจะกังวัลว่าเมืองหงสา ไปทางไหน ร้านอยู่ไหน …หลังจากกลับมาเราก็จะบอกตัวเองว่า ไม่ต้องดูแผนที่ก็ได้ เพราะไม่มีอะไรให้หลง ป้ายบอกทางก็มีตลอดเหมือนไทย ^-^
มาต่อกันที่เรื่องของการเดินทาง ผมมาเข้าด่านนี้ครั้งแรก จึงเลือกแวะซื้อซิมที่เมืองเงินก่อน อย่างน้อยเมื่อใช้เน็ตมือได้ จะได้ดูว่าเราอยู่ในตำแหน่งไหน หรือกดหาข้อมูลอื่นๆได้ง่าย เพราะว่าหากไปดูเส้นทางจากด่านน้ำเงิน ถึงเมืองหลวงพระบาง ใน google ยังไม่มีนะครับ จะพาไปเส้นทางเก่า แต่เส้นทางที่เราจะไปคือถนน R4B เป็นสายใหม่ ซึ่งจากด่านไปก็ไม่รู้ไปทางไหน จึงจำเป็นต้องใช้เน็ตก่อนนั่นเอง
ต่อมาเมื่อได้ซิมการ์ดที่เมืองเงิน พร้อมแพ็คเก็จเน็ต 7 วัน ราคา 100 บาท ก็ขับรถย้อนออกมาทางเดิม ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายไปยังเมืองหงสา ไปตามป้ายบอกทางก็ได้ จากจุดนี้เจอแยกไหนก็เลี้ยวขวา ไม่นานเท่าไหร่เราก็จะถึงแยกโรงไฟฟ้าหงสา ก็ให้เลี้ยวขวาอีก ไปตามป้ายบอกทาง ทีนี้เราจะเห็นโรงไฟฟ้าหงสาอยู่ซ้ายมือ มองเห็นเลียบไปกับถนน สามารถจอดข้างทางถ่ายรูปได้ ช่วงนี้นาข้าวก็กำลังถึงฤดูเก็บเกี่ยว หรือตั้งพิกัดไปที่ ปตท.หงสา ก็ได้ คลิกดูพิกัด จะได้จอดแวะพักรถพักคนไปด้วย
เลยจากโรงไฟฟ้ามาอีกไม่ไกล จะเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าในตัวเมือง มีปั๊ม ปตท. มีกาแฟอเมซอน เหมือนบ้านเรา ถัดจากปั๊มช่วงนี้เป็นตัวเมืองหงสา มีร้านขายโทรศัพท์ จุด Exchang แลกเงินกีบ หากมาถึงจุดนี้ช่วงเที่ยงยังไม่ได้ทานข้าว ก็หาข้าวทานให้เรียบร้อย เพราะจากนี้ไปอีกประมาณ 100 กว่าโลจะไม่มีปั๊มให้แวะ ไม่มีร้านอาหาร หรือห้องน้ำ
ออกจากปั๊ม ปตท.หงสา ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ถนน R4B เพื่อนำรถไปลงแพที่บ้านเชียงแมน ข้ามไปยังอีกฝั่งของน้ำโขง คือเมืองหลวงพระบางนั่นเอง เปิดแผนที่ดูถนนสาย R4B จะมีใน google แต่ถ้าเราให้ google นำทางไปท่าแพ google จะพาไปถนนเส้นเก่า ดังนั้นต้องดูตามป้ายบอกทางเอาจะง่ายกว่า จากเมืองหงสา ออกมาระยะทางราวๆ 10 กิโลเมตร ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีหลุมเล็กๆ เป็นบางช่วง แต่ก็ไปได้เรื่อยๆ จนถึงทางแยก จะมีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปหลวงพระบาง เลี้ยวขวาไปไชยบุรี เราก็ไปตามป้ายบอกทาง
ทีนี้ก็จะเข้าสู่ถนน R4B ขับรถไปอีกไม่รู้กี่กิโลเมตร สภาพถนนก็ค่อนข้างดี มีขึ้นเขาลงเขา โค้งไปมา ขับเรื่อยๆชมวิวสองข้างทางเพลินๆ มีป้ายบอกทางไปหลวงพระบางเป็นระยะๆ ถ้าเดินทางในวันหยุดโชคดีก็อาจเจอรถยนต์จากไทย ก็ขับตามเขาไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงโป๊ะแพข้ามฟากแม่น้ำโขง ท่าเรือที่บ้านเชียงแมน
จอดรอแพสักครู่ ไม่รู้ว่าออกทุกกี่นาที แต่ถ้าคนเยอะก็ออกเร็ว
เมืองหลวงพระบาง
พอแพขนานยนต์มาจอดเราก็ขับรถขึ้นแพ มีคนคอยโบกให้บนแพครับ ไม่ต้องลงรถก็ได้ เดี๋ยวเขามาเก็บตังค์เอง จำไม่ได้ว่ากี่กีบ แต่ก็ไม่แพง ใช้เวลาไม่แน่ใจว่าถึง 15 นาทีหรือเปล่า เราก็มาขึ้นฝั่งที่เมืองหลวงพระบาง
มาถึงฝั่งที่เมืองหลวงพระบาง ท่าเรือจะอยู่แถวๆหลังวัดเชียงทอง หรือพิพิธภัณฑ์ เช็คอินไว้ก่อนก็ได้ เพราะขากลับก็ต้องมาลงแพตรงจุดนี้ มาถึงราวๆ 18.00 น. ทั้งมอไซด์รถยนต์เยอะมาก จนแทบไม่ได้มองอย่างอื่น กลัวรถทิ่มตูดคันหน้า เพราะถนนอีกเส้น เป็นกาดมืด หรือถนนคนเดิน รถจึงวิ่งมาที่เส้นริมโขงเยอะเป็นพิเศษ ก็ขับจนออกไปจากบริเวณนี้ให้ได้ก่อน พอจอดรถได้ก็จัดการค้นหาที่พักในคืนนี้ ซึ่งไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า กลัวรูปไม่ตรงปก เลยต้องมาหาเอาถึงที่
ที่พักส่วนใหญ่แล้วถ้าเลือกแบบประหยัดหน่อยก็จะเป็นเกสเฮ้าส์ ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ตามตรอกซอยต่างๆเยอะมาก ..เราจะรู้ได้ไงว่ามีที่พักเยอะแค่ไหน ก็ใช้ฟังก์ชั่นแผนที่ google นั่นแหละกดเลือกโรงแรม ก็จะแสดงโรงแรมอยู่ใกล้จุดที่เราอยู่ออกมา แต่ปัญหาของผมคือ ผมต้องเลือกที่พัก ที่มีพื้นที่จอดรถยนต์ได้ด้วย ซึ่งหายากพอสมควร ถ้าไม่เต็ม ก็อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวเกินไป หรือจุดจอดรถอยู่ไกลต้องหิ้วกระเป๋าเข้ามาในห้องพักลำบาก
และก็ได้มาเจอที่พักคืนแรก Elephant Boutique Hotel มีห้องพักแบบครอบครัว ห้องกว้าง สะอาด เงียบดี แอร์เย็น ราคา 600,000 กีบ ประมาณ 1000 บาท สำหรับนอน 4 คนก็พอรับได้ มีที่จอดรถยนต์ด้านหน้า และไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยว เพราะตอนเช้ามีแพลนไว้ว่าจะต้องเดินไปใส่บาตรข้าวเหนียว และเดินเล่นในจุดสำคัญต่างๆในตัวเมือง
ได้ที่นอนแล้ว คืนนี้ก็อุ่นใจล่ะ ออกไปเดินหาของกิน เที่ยวตลาดมืด หรือถนนคนเดิน มีทุกวัน บรรยากาศก็จะเหมือนกับในไทย มีสินค้าท้องถิ่น เสื้อผ้า อาหาร ออกมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนมากก็เป็นคนไทยกับฝรั่ง ไปดูกันว่าเมืองหลวงพระบางมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง เริ่มเดินเที่ยวตั้งแต่ไปถึงคืนแรกเลย
ตลาดมืดหลวงพระบาง หรือถนนข้าวเหนียว
เหมือนถนนคนเดินของไทยเรา อยู่บนถนนสายหลักของตัวเมือง มีสินค้าต่างๆนำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว มีทุกวัน เริ่มเวลา 17.00 – 21.00 น. เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองหลวงพระบาง ก็ไม่พลาดที่จะต้องแวะไปเดินเล่น หาของกินแปลกๆ มุมถ่ายรูปสวยๆ เห็นวิวกว้างๆจะอยู่บริเวณทางขึ้นพระธาตุพูสี หน้าพระราชวัง
ตักบาตรข้าวเหนียว
สบายดีหลวงพระบาง ยามเช้ามืด เดินออกจากที่พักราวๆตีห้า เพื่อมารอใส่บาตรข้าวเหนียว เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมและเป็นเอกลักษณ์ในเมืองหลวงพระบาง ใครมาแล้วไม่ได้ใส่บาตรเหมือนมาไม่ถึงนั่นแหละ… เตรียมเงินอย่างเดียว ที่เหลือมีแม่ค้ามาจัดวางขายเป็นชุดๆ เรามาอยู่กันที่บริเวณด้านหน้า วัดใหม่สุวรรณภูมาราม ราวๆตีห้าครึ่ง จะมีขบวนพระออกมารับบิณฑบาตร ใส่บาตรเสร็จก็เดินต่อไปยังตลาดเช้า อยู่ข้างๆกำแพงวัด
พิกัดหน้าวัด : https://maps.app.goo.gl/BVBZpRVLifygE5gZA
ตลาดเช้าหลวงพระบาง
จากนั้นก็ไปเดินตลาดเช้าหลวงพระบาง อยู่ใกล้ๆจุดใส่บาตร คนที่มาเที่ยวก็จะทำเหมือนๆกัน คือใส่บาตรเสร็จก็ไปเดินตลาด เสร็จแล้วก็ไปร้านกาแฟ สายๆหน่อยก็เดินเที่ยวตามวัดวา ถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือน ฯลฯ บรรยากาศในตลาดก็คล้ายๆกับบ้านเรา อาจจะมีสินค้าแปลกหูแปลกตาให้ได้เห็น
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/devFrALzmNbP2fiYA
ร้านกาแฟประชานิยม
หลังจากเดินมาเหนื่อยๆก็มาหาอะไรกินที่ร้านกาแฟประชานิยม ริมแม่น้ำโขง ว่ากันว่าหากอยากรู้ว่ามีคนไทยมาเที่ยวหลวงพระบางเยอะหรือเปล่า ให้มาดูที่ร้านประชานิยมในยามเช้า เป็นเหมือนอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ใครมาเที่ยวแล้วต้องแวะมาร้านนี้ และได้รับความนิยมจากคนไทยที่ไปเที่ยวหลวงพระบางเป็นพิเศษ ผ่านการแนะนำบอกต่อกันมาเรื่อยๆ บรรยากาศร้านก็เล็กๆติดถนน ไม่ได้มีเมนูอะไรพิเศษ แต่มันมีความเก่าแก่ ความขลังอยู่ในตัว มาถึงแล้วต้องหยิบกล้องขึ้นมาเซลฟี่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/godUuWmVnDGAGazd6
พระธาตุพูสี
อิ่มทองแล้วก็มาเดินเล่น ที่พระธาตุพูสี เป็นจุดที่สูงสุดในตัวเมือง อยู่ตรงไหนก็จะมองเห็นพระธาตุนี้ เป็นพระธาตุเก่าแก่ของลาว ด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำโขงและอีกด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำน้ำคาน บนยอดเขาประดิษฐาน พระธาตุพูสี เมื่อเดินขึ้นบันไดไปจนถึงบนยอดสามารถมองเห็นแม่น้ำทั้งสองสายได้ หากไปตอนเช้าๆก็จะมีทะเลหมอกให้เห็น หากไปตอนเย็นก็ไปชมพระอาทิตย์ตกดิน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4pxKr9H2t15HYzBX9
พระราชวังหลวงพระบาง
อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกับพระธาตุพูสี ลงบันไดพระธาตุมาก็เห็นแล้วครับ เป็นพระราชการวังเก่า ตอนนี้ได้เปิดเป็นหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือหอคำ เดิมคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง จึงเรียกอีกชื่อว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2447 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ต่อมาปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง เมื่อ พ.ศ. 2519
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2SZVKttjq47smCDK6
วัดเชียงทอง
ถ้าดูแผนที่ไปด้วย จะเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเมืองหลวงพระบาง จะอยู่ใกล้ๆกัน สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวัน มีร้านอาหารร้านกาแฟ ตั้งอยู่เรียงราย เป็นจุดแวะพักปะปนไปกับอาคารบ้านเรือนเก่าแก่… โดยวัดเชียงทอง เป็นวัดเก่าแก่ วัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบาง และราชวงศ์ลาว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่มาเที่ยวแล้วพลาดไม่ได้ เป็นวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งความงามของสถาปัตยกรรมของลาว ทรงอาคารวิหารของวัดได้ถูกนำไปใช้ทำเป็นโลโก้ สัญลักษณ์เอกลักษณ์ต่างๆมากมายของลาว มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆในอุโบสถที่ใครไปแล้วต้องลองหน่อย และใกล้ๆกันยังมีอีก 2-3 วัด ซึ่งสามารถเดินไปเที่ยวต่อได้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PpsndmgZQeoE9yuc9
น้ำตกตาดกวางสี
เห็นหลายเว็บหลายเพจรีวิวเมื่อมาถึง ก็ต้องมาชมให้เห็นกับตาหน่อย อันนี้ต้องขับรถยนต์ไป ….น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกที่อยู่นอกตัวเมืองไปอีกราวๆ 40 กิโลเมตร ตั้งพิกัดใน google ไปตามเส้นทางได้เลย เป็นน้ำตกที่สวยสุดของเมืองหลวงพระบาง รถยนต์จอดไว้ตรงลานจอด กว้างขวางมาก แล้วซื้อบัตรนั่งรถกอล์ฟขึ้นไปอีกไม่ไกล มีร้านจำหน่ายอาหารด้านบน และเดินต่ออีกนิดหน่อย แต่เมื่อเจอน้ำตกแล้ว ก็คุ้มกับการดั้นด้นเดินทางมา เพราะมันสวยจริงๆ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cRNC1m6Lb92UQf5R9
ทั้งหมดนี้เป็นไฮไลท์แหล่งท่องเที่ยวในหลวงพระบาง เที่ยวได้ครบใน 1 วัน ที่บรรดาบล็อกเกอร์ต่างๆรีวิวกันว่ามาแล้วห้ามพลาด ยังมีจุดแวะพักรายทาง คาเฟ่เก๋ๆ วัดวาอารามเก่าแก่อีกมาก หากไปหลายวันจะเก็บให้หมดก็หาเช่าจักรยานสักคันปั่นเล่นๆรอบเมืองก็ได้ มีโอกาสก็ลองมาเที่ยวกันดู
การขับรถมาเที่ยวเอง มันดีตรงที่เราอยากไปไหนก็ไปได้เลย ของใช้จำเป็นนำไปได้เต็มที่ อยากจอด อยากแวะ ก็สะดวก เหนือสิ่งอื่นใด ได้ความตื่นเต้น ได้ประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ ได้สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ธรรมชาติสองข้างทาง เห็นอาคารบ้านเรือน อาหารแปลกๆ มีเวลาเที่ยวแบบ Slow Lift สัก 2 คืน 3 วัน กำลังดี สัญญาญเน็ตมือถือที่ลาวแรงมาก และใช้งานได้ทุกที่ ใครมีเวลาหลายวันก็ไปนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเที่ยววังเวียง หรือเวียงจันทร์ต่อสักรอบก็ได้ …อ่านแล้วอยากไปตามก็เตรียมรถ เตรียมคน ตามลิงก์นี้ได้เลย เชียงราย-หลวงพระบาง ไปยังไง? https://www.chiangraifocus.com/25413/