วันนี้ (10 ม.ค.65) ทหาร บก.คปส.3 ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ทหารร้อย ทพ.3104 ร้อย ม.สกัดกั้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง ที่ออกตรวจตราตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรวจพบกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวน 9 คน รูปพรรณสันฐานไม่เหมือนคนไทยเดินอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้กับโรงแรมแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียงแสน
เมื่อตรวจสอบพบเป็นชาวจีน ทราบชื่อต่อมาคือ นายเหนิ้น ซ่ง หมิง อายุ 41 ปี นายติง หนิง เตา อายุ 40 ปี นายหลิว จิน จิน อายุ 38 ปี นายหวัง เหว่ย อายุ 27 ปี นายซวี่ หัว เชี๋ยง อายุ 20 ปี นายสอง จิ้น หลง อายุ 28 ปี นางหลี่ เซี๋ยว หลิง อายุ 27 ปี นางเสียว เสี่ยว หลิง อายุ 34 ปีและนายฟูเสี่ยว เฟย อายุ 40 ปี
ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้พากันเดินทางไปเที่ยวในโครงการคิงโรมันส์ ซึ่งมีบ่อนคาสิโนอยู่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่อยู่ตรงกันขัาม อ.เชียงแสน เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นได้ลักลอบนั่งเรือข้ามน้ำโขงกลับมาเข้ามาฝั่งไทย โดยว่าจ้างคนนำพาหัวละ 45,000 บาท เพื่อจะกลับประเทศจีนต่อไป
ขณะที่ร้อย ม.3 ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมือง ที่ตั้งจุดตรวจบริเวณสามแยกดอยอ่างขาง ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พบรถกระบะโตโยต้าวีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน ยจ 271 เชียงใหม่ มุ่งหน้าจะไปทางตัวเมืองฝางจึงเรียกให้หยุดตรวจค้น พบมีแรงงานต่างด้าวนั่งมาในรถ 18 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 8 คน และเด็กชาย 2 คน พร้อมผู้นำพาเป็นชายไทย 2 คน จึงได้จับกุมตัวทั้งหมดเอาไว้
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าแรงงานทั้งหมดมาจากเมืองกึ๋ง เมืองลาเสี้ยว และลอยก่อ ประะเทศเมียนมา เสียค่าจ้างให้คนนำพาไปทำงานที่ตัวเมือง อ.ฝาง รายละ 1,500–2,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา กองกำลังผาเมืองแจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย รวม 83 ครั้ง จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายรวม 833 ราย เป็นชาวเมียนมา 810 ราย ลาว 6 ราย จีน 15 ราย กัมพูชา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และจับกุมผู้นำพาได้ 31 ราย โดยจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองทางพื้นที่ชายแดน จ.เชียงใหม่ 630 ราย จ.เชียงราย 180 ราย ส่วนเดือน ม.ค.2565 พบว่ามีการลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยรวมตัวเลขตั้งแต่วันที่ 1-10 ม.ค.ได้กว่า 50 คนแล้ว เป็นคนเมียนมา 40 คนและจีน 10 คน