พาณิชย์จังหวัดเชียงรายประชุมคณะกรรมการบริหารตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์จังหวัดเชียงราย (Chiang Rai Brand)

วันที่ 31 มกราคม 2565 ณ ห้องธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์จังหวัดเชียงราย (Chiang Rai Brand) ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์เชียงราย (Chiang Rai Brand และ Chiang Rai Brand Plus+) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย

จังหวัดเชียงรายดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของจังหวัดเชียงราย โครงการพัฒนาสินค้า การค้า การลงทุน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายเเดน เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงรายแบบบูรณาการ กิจกรรมหลักการพัฒนาและเพิ่มช่องทางการตลาดผลิตถัณฑ์ (Chiang Rai Brand)

ในที่ประชุมพิจารณาเพิ่มเติม หรือแนะนำแก้ไข ให้ถูกต้อง สำหรับผู้ผ่านการพิจารณาให้ใช้ตราสัญญาลักษณ์ผลิตภัณฑ์จังหวัดเชียงราย (Chiang Rai Brand และ Chiang Rai Brand Plus+) สาขา อาหารและเครื่องดื่ม , สาขาผ้า เครื่องประดับและเครื่องแต่งกาย , สาขา ของใช้และของที่ระลึก , สาขาสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารและยา , สาขาอื่นๆ โดยผู้ผ่านการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ตราสินค้าผลิตภัณฑ์จังหวัดเชียงราย (รอบที่ 1 )จำนวน 30 ราย 56 ผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แนะผู้ขอยื่นตราสัญญาลักษณ์ผลิตภัณฑ์จังหวัด (Chiang Rai Brand และ Chiang Rai Brand Plus+) ต้องผ่านเกณฑ์ข้อบังคับทุกข้อ หากไม่ผ่านเกณฑ์บังคับ จะไม่ได้รับการพิจารณาต้องแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
24-26 พ.ย.นี้ | เชิญชวนทุกท่านมาเลือกซื้อสินค้าใน “ ตลาดนัดร่วมค้าฯ ” ภายใต้โครงการร่วมค้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ครั้งที่1
24 – 26 พ.ย. นี้ | งาน “ธงฟ้าสินค้าราคาประหยัด”
ขอเชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจัดจุดจำหน่าย-เชื่อมโยงสินค้าเกษตรและชุมชน
ผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เตรียมความพร้อมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า (East-Northern Thailand & GMS Expo) ที่จังหวัดอุดรธานี
โครงการพาณิชย์ ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21 หมู ไก่ ไข่ น้ำมันพืช ราคาถูกลดถึง 40%
พาณิชย์ ดัน 3 สินค้า GI ไทย กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น สู่ตลาดญี่ปุ่น สร้างรายได้ให้เกษตรกรท้องถิ่นกว่า 1,200 ล้านบาท