เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามกรณีที่วัวควายของชาวบ้านพื้นที่ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ถูกโจรมาขโมยหายเข้ากลีบเมฆ นับตั้งแต่ต้นปี 65 มีวัวควายในพื้นที่หายไปแล้วกว่า 10 ตัว คาดเป็นฝีมือกลุ่มค้าวัวควายหรือกลุ่มขี้ยาในพื้นที่
นายขจรเกียรติ เจริญทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านร่องปลาขาว ม.23 ต.ห้วยสัก เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นมา มีโจรมาขโมยวัวควายในเขต ต.ห้วยสัก หายไปแล้วนับ 10 ตัว โดยจะเลือกก่อเหตุในเวลากลางคืน ช่วงเวลาประมาณ 01.00-03.00 น. โดยจะเลือกเอาวัวควายที่สภาพสมบูรณ์ ขายได้ราคาดี ในช่วงคืนวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาก็มาก่อเหตุขโมยวัวในพื้นที่บ้านร่องปลาขาว แต่สามารถติดตามคืนมาได้ ซึ่งในคืนที่วัวหาย เจ้าของได้ลุกมาดูวัวควายที่เลี้ยงไว้ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. พบว่าวัวก็ยังอยู่ แต่พอกลับมาดูอีกทีในเวลาประมาณ 03.00 น. ก็ไม่พบวัวที่เลี้ยงไว้แล้ว จึงมาแจ้งตนในช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. ตนเลยประกาศเสียงตามสายเพื่อแจ้งเหตุและขอกำลังชาวบ้านออกช่วยติดตาม จนกระทั่งชาวบ้านไปได้ยินเสียงวัวร้องใกล้หนองน้ำพื้นที่ อ.เวียงชัย ห่างชุมชนประมาณ 1.5 กม. คณะกรรมการและชาวบ้านจึงพากันไปติดตามไปดู พบวัวถูกมัดติดกับต้นไม้ คาดว่าช่วงก่อเหตุเป็นช่วงใกล้เช้า ขโมยจึงไม่สามารถนำวัวที่ขโมยไปได้ไกล จึงมัดเอาไว้ก่อนเพื่อเตรียมขนย้ายในช่วงกลางคืน
“เมื่อเกิดเหตุบ่อยขึ้น ทางชุมชนก็อาจจะเพิ่มการกวดขันลาดตระเวณ แต่คงทำได้แค่เป็นการปราม เพราะโจรมักจะเลือกเวลาก่อเหตุกลางดึก ซึ่ง ชรบ. คงไม่สามารถดูแลได้ตลอดทั้งคืน เพราะแต่ละคนก็ต้องทำงานเลี้ยงชีพ อีกทางหนึ่งก็คือเจ้าของวัวควายต้องลงทุนซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งไว้ เพื่อบันทึกภาพผู้ก่อเหตุ จะติดตามตัวได้ง่ายขึ้น” ผญบ.ร่องปลาขาว กล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามสอบถามผู้เลี้ยงวัวในพื้นที่บ้านหัวดง ม.11 ต.ห้วยสัก เนื่องจากมีเหตุโจรมาก่อเหตุขโมยวัวในช่วงคืนเดียวกัน โดยนายอธิพงศ์ ปัญญาบุญ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 17 ม.11 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนตื่นมาดูวัวในคอก ก็พบว่าไม้ปิดประตูคอกวัวถูกถึงเปิดไปคนละทางที่ตนเคยปิดเปิดเป็นประจำ เมื่อไปดูในคอกก็พบว่าวัวได้หายไป 2 ตัว โดยมีรอยเชือกผูกวัวถูกตัด และมีอีก 1 ตัวที่ถูกแก้มัดเชือก แต่ยังไม่ทันได้เอาไป จึงแน่ใจว่ามีโจรได้มาลักขโมยวัวของตนหายไปจากคอก จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและโทรบอกญาติ เพื่อพากันออกตามหา ทีแรกก็ทำใจว่าคงไม่ได้คืน เพราะหายกันบ่อย แต่ด้วยที่รู้ตัวกันเร็วและช่วยกันออกตามหา คาดว่าเมื่อโจรเห็นมีคนออกมาช่วยกันตามหา จึงตัดสินใจปล่อยวัว วัวดังกล่าวจึงเดินกลับมาที่คอก มีชาวบ้านไปพบห่างจากจุดที่เลี้ยงไว้ประมาณ 200 เมตร ถือว่ายังโชคดีที่ได้วัวคืน ตอนนี้เลยย้ายวัวทั้งหมดมาเลี้ยงที่คอกใกล้ๆบ้าน เพื่อจะได้ดูแลง่ายขึ้น
ด้านนายปฎิภาณ ใจนาง อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 1 ม.11 ต.ห้วยสัก เล่าว่า ตนเลี้ยงวัวไว้ 1 ตัว เลี้ยงรวมกับในคอกเดียวกับของนายอธิพงศ์ แต่เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา วัวตัวดังกล่าวได้ถูกขโมยหายไปจากคอกที่เลี้ยงไว้ ตนและชาวบ้านได้ช่วยกันออกตามหาในรัศมีประมาณ 6 กม. ตั้งแต่ช่วงเย็นไปถึงประมาณ 22.00 น. แต่ตามหาไม่เจอ และช่วยกันตามหาช่วงกลางวันอีก 2-3 วัน แต่ก็ไม่เจอ จึงทำใจว่าไม่ได้คืนมาอย่างแน่นอน
นายเอกชัย วงค์ฟั่น อายุ 59 ปี ผญบ.หัวดง ม.11 กล่าวว่า แต่ก่อนในพื้นที่ไม่เคยมีปัญหาวัวควายหายแบบนี้มาก่อน เพิ่งจะมาเจอตั้งแต่ต้นปี 65 เป็นต้นมา คาดว่าอาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจึงทำให้มีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้น ตนได้ประสานไปยังผู้นำของบ้านใหม่นาวา ม.20 ต.ห้วยสัก เพราะเป็นพื้นที่มีการเลี้ยงวัวควายจำนวนมาก มีวัวควายหายบ่อย เพื่อจะให้มีการรวมกลุ่มกันเลี้ยง และช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตา เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำในอนาคต
ที่มา: TopNorth New