ททท. เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ 2567 ชู “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” หวังดันรายได้ 186,000 ล้านบาท

ททท.สำนักงานเชียงราย ได้นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด ซึ่งปีนี้ได้จัดขึ้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชียงราย และพะเยา ที่จะมีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป รวมถึงสร้างการรับรู้ของงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ Thailand Biennale งานระดับโลก ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพในปีนี้ บรรยากาศในงานเป็นแบบง่ายๆผ่อนคลาย สไตล์แคมป์ปิ้ง ริมน้ำ โดยมีผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ (ททท.) นำเสนอทิศทางและแผนงานการตลาดปี 2567 พร้อมจับมือพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวกระตุ้นการเดินทางเที่ยวภาคเหนือช่วง High Season โดยส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่น

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์หนองนารี จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์  เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมแถลงข่าวงาน “เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567″ ชูแนวคิด “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia)” ผสาน “ความร่วมสมัย (Modern Lanna)” พร้อมจับมือพันธมิตร 17 จังหวัดภาคเหนือ สร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หวังกระตุ้นการเดินทางภาคเหนือช่วง High Season สู่ภาพรวมเที่ยวภาคเหนือทั้งปี 186,000 ล้านบาท พร้อมยกนำเสนอ “เที่ยวเพชรบูรณ์ต้อง 678” ผลักดันจังหวัดเพชรบูรณ์สู่จุดหมายปลายทางเที่ยวได้ตลอดปี

นายชัชวาลย์  เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ททท. ภูมิภาคภาคเหนือ เลือกจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจังหวัดเพชรบูรณ์ยังขอนำเสนอแคมเปญ “เที่ยวเพชรบูรณ์ต้อง 678” ที่แนะนำจังหวัดเพชรบูรณ์ในหลากหลายแง่มุม ผ่าน 6 ของที่ระลึกต้องซื้อ 7 เมนูอาหารต้องชิม และ 8 แหล่งท่องเที่ยวต้องไป เพื่อสร้างการรับรู้ในฐานะเมืองที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีและทางจังหวัดเพชรบูรณ์ยังมีนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะด้านรายได้จากการท่องเที่ยวและมูลค่าจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน และของฝากของที่ระลึก ตลอดจนพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้การนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีทักษะและองค์ความรู้ในธุรกิจการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น และการให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อีกทั้ง สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งได้รับการบรรจุขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 7 ของประเทศไทย ก่อให้เกิดกระแสการเดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในอนาคตจังหวัดเพชรบูรณ์มีแผนโครงการที่จะผลักดันให้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมทับซ้อนกันถึง 3 อารยธรรม อายุเก่าแก่ราวเกือบ 2,000 ปี

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. เปิดเผยว่า ททท. เตรียมดำเนินการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคภาคเหนือ โดยบูรณาการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ในพื้นที่ 17 จังหวัด ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) และความร่วมสมัย (Modern Lanna) ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ภายใต้ 3 ทิศทางหลัก ได้แก่

1. Amazing Northern Lifestyle ขยายฐานตลาดและเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคุณภาพ ผ่านเทรนด์ของการดื่มชา กาแฟ และโกโก้ กิจกรรม Retreat ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายอย่างแท้จริง รวมถึงเสน่ห์ของงาน Modern Art & Craft ที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ผสมผสานเข้ากับความทันสมัย

2. Amazing Northern Festival กระตุ้นความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อขยายฤดูกาลท่องเที่ยว ผ่านความเชื่อ ความศรัทธา และสายมู และ

3. Amazing Northern Mueang Rong กระตุ้นการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่เมืองรอง ด้วยการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ (Story Telling) ผสมผสานอัตลักษณ์ของวัฒนธรรม เมืองเก่า-ย่านเก่า วิถีชีวิต อาหารถิ่น สินค้า GI และกิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคม

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่าภูมิภาคภาคเหนือนั้นมีความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล รวมทั้งตลอดปีนี้ ททท. ยังได้เตรียมนำเสนอกิจกรรมและงานเทศกาลประเพณีเพื่อเติมความน่าสนใจน่าการเดินทางเยือนภาคเหนือแต่ละฤดูกาลอีกมากมาย ได้แก่

กิจกรรมฤดูหนาว เช่น เทศกาลลอยกระทงเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน จังหวัดลำปาง, ลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก, ลอยกระทงจุดผางประทีปตีนก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก จังหวัดแพร่ กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จังหวัดเชียงราย, Balloon Festival Huppatat 2023 จังหวัดอุทัยธานี, งานเทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงกิจกรรมเคาน์ดาวน์ปีใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

กิจกรรมฤดูฝน เช่น Pai Jazz and Blues Fest 2024 จังหวัดแม่ฮ่องสอน, ลำปางย้อนรอยลำปางพาแม่นั่งรถม้าแอ่วเวียงละกอน จังหวัดลำปาง, ประเพณีสลากภัตรหรือสลากย้อม จังหวัดลำพูน, ดอยช้างเทรล จังหวัดเชียงราย, กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก, กิจกรรมเวียนเทียนตะคัน เมืองโบราณสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย, มหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร,งานประเพณีแข่งขันเรือยาว จังหวัดพิจิตร

และกิจกรรมฤดูร้อน เช่น Chiang Mai Crafts Week 2024 จังหวัดเชียงใหม่, Amazing Chiang Mai Pride 2024 จังหวัดเชียงใหม่, งานประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา, งานประเพณีหกเป็งไหว้สาพระมหาธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน, งานมหกรรมทุเรียนหลง – หลิน ลับแล ของดีของเด่นจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, เทศกาลพายเรือเที่ยวป่า ตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด จังหวัดเพชรบูรณ์, เทศกาลวันวานอุทัยธานี จังหวัดอุทยธานี นอกจากนี้ ตลอดปี 2567 ภูมิภาคภาคเหนือยังภูมิใจนำเสนอกิจกรรม 356 day coffee ที่จะชวนทุกคนไปดื่มด่ำกับกาแฟซิกเนเจอร์ของภาคเหนืออีกด้วย

ในส่วนของจังหวัดเชียงราย นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงรายได้นำกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่จะมีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปมานำเสนอสร้างการรับรู้ในงานนี้ อาทิกิจกรรมชากาแฟและโกโก้ ที่จะจัดขึ้นที่เชียงรายในต้นเดือนธันวาคม เส้นทางบ้านศิลปินที่เกี่ยวข้องกับงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จังหวัดเชียงราย ทำให้ผู้ประกอบการเชียงรายได้พบปะกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวซึ่งกันและกันทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว

การแถลงข่าวครั้งนี้ถือเป็นการบอกกล่าวให้นักท่องเที่ยวทั่วประเทศได้ทราบว่า การท่องเที่ยวในช่วง Hight Season ของ ภาคเหนือพร้อมแล้ว ไม่ว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เทศกาลประเพณีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทศกาล”งานยี่เป็ง”หรือลอยกระทง ของจังหวัดเชียงราย-พะเยา ที่มีการจัดขึ้นหลายที่ด้วยกัน ,งานมหกรรมชาติพันธุ์ อ.แม่สาย ขณะที่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 มีงานใหญ่ระดับโลก Thailand Biennale ที่จังหวัดเชียงรายเป็นเจ้าภาพในปีนี้

ในส่วนของ อบจ.เชียงราย ก็ได้มีการจัดงานมหกรรมดอกไม้อาเซียนที่สวนไม้งามริมน้ำกก และพร้อมกับ 4 อำเภอ ซึ่งจะสิ้นสุดราวต้นเดือนมกราคม 2567 ในขณะที่เทศบาลนครเชียงราย ก็ได้มีกำหนดการจัดงานเชียงรายดอกไม้งาม ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 ไปถึงสิ้นเดือน มกราคม 2567 ซึ่งในช่วงสิ้นปี ยังมีเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่บริเวณหอนาฬิกา ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2566 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจะมาสัมผัส ความหนาวเย็น ทะเลหมอก ดอกไม้งาม วัฒนธรรม และอื่นๆ ที่แสดงความพร้อมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการต้อนรับและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เชียงราย

ทั้งนี้ ททท. คาดหวังว่ากิจกรรมส่งเสริมการเดินทางที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ จะช่วยผลักดันให้มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน-ครั้ง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีที่ผ่านมา) และเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 186,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา)

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672 Facebook Fan Page ของ ททท. สำนักงานภาคเหนือทั้ง 11 สำนักงาน และ Facebook Fan Page: GoNorthThailand