สธ.แถลงพบเข้าข่ายติดเชื้อ “โอไมครอน” 63 รายยืนยันผลแล้ว 23 ราย ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มเร็วกว่าสัปดาห์ที่แล้ว 3% ตรวจเจอโอไมครอน 1 ใน 4 รายของผู้ติดเชื้อโควิด
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ของโควิด-19 สายพันธุ์ “โอไมครอน” (Omicron,โอมิครอน) ในประเทศไทย ว่า “โอไมครอน” ระบาดครั้งแรกที่แอฟริกาใต้ ซึ่ง WHO ให้ความกังวลค่อนข้างมาก
ที่ผ่านมาทั่วโลกมีการติดเชื้อ “โอไมครอน” แล้ว 89 ประเทศ ที่ผ่านมามีการถอดรหัสพันธุกรรมโอไมครอนและพบว่ามีสายพันธุ์ย่อย 3 สายพันธุ์ย่อยแล้ว ส่วนการติดเชื้อ และการระบาดของ “โอไมครอน” ในประเทศไทย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ “โอไมครอน” แล้วจำนวน 63 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ธ.ค.64) เป็นการยืนยันผลว่าติดโอไมครอนจริงประมาณ 20 กว่าราย การระบาดเพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว 3% โดยอ้างอิงจากตรวจเจอโอไมครอน 1 ใน 4 รายของผู้ติดเชื้อโควิด ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามการพบ โอไมครอน ค่อนข้างเร็วจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกรายที่ตรวจเจอเป็นการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ
เวลา 11.30 น.วันที่ 21 ธ.ค.64 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นพ.วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณะสุขจังหวัดเชียงราย นพ.ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นพ.อิทธิพงษ์ ยอดประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในจังหวัดเชียงราย.
นพ.วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณะสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การพบผู้ป่วยในครั้งนี้ทางจังหวัดได้มีมาตราการป้องกันเป็นอย่างดีเพราะได้มีการเตียมการรองรับไว้แล้วทำให้รับผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดเข้าสู่กระบวนการอย่างรวดเร็วทำให้การแพร่ระบาดอยู่นวงแคบ และได้นำตัวผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษาและกักตัวแล้ว โดยจังหวัดเชียงรายได้มีการตราการป้องกันใน 11 อำเภอ ที่จัดเป็นบลูโซน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการได้รับทราบถึงมาตราการและการป้องกันแล้ว
นพ.อิทธิพงษ์ ยอดประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้มีความพร้อมในการรับมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์เดลต้า และสายพันธุ์อื่นๆแล้ว โดยในส่วนของสายพันธุ์โอไมครอน นั้นทางโรงพยาบาลได้มีการเตรียมพร้อมทั้งห้องพัก อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์เอาไว้แล้ว ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้มีความตื่นเต้นในการรักษาแต่อย่างใด ในส่วนอาการของผู้ป่วย พบว่าในวันแรก ผูํป่วยมีไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียส และมีอาการเจ็บคอ ปัจจุบันผู้ป่วยมีอาการปกติไม่มีไข้ และอาการอื่นๆ ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ด้าน นพ.ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลร่วมกับสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงรายได้ทำการสุ่มตรวจในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้วตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อเกิดการพบผู้ป่วยจึงได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ในการควบคุมและนำเข้าสู่การรักษาในที่สุด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสุ่มตรวจประชาชนและนักท่องเที่ยวตามมาตราการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลผู้พบเชื้อ เป็นชาวต่างชาติ เพศชาย สัญชาติ อังกฤษ อายุ 36 ปี อาชีพ วิทยากรทางด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม มาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ โดยอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดตามเนื้อตัว เป็นมา 1 วัน ให้ประวัติเดินทางมาจาก เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ 4 วัน โดยเดินทางเข้ามาทำงาน และเดินทางมาที่ อ.เชียงของ เริ่มมีอาการของไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดตามเนื้อตามตัว
วันที่ 15/12/2564 ผู้ป่วยได้ตรวจหาเชื้อโควิดวิธี Antigen Test Kit โดยตนเอง ผล…พบเชื้อ
วันที่ 16/12/2564 จึงเข้ามารักษาที่ รพร.เชียงของ รพร.เชียงของ ประสานส่งผู้ป่วยรักษา และตรวจยืนยัน โดยวิธี RT-PCR ที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ เชียงราย
Timeline ผู้ป่วย
วันที่ 12 ธ.ค. 2564 เวลา 13.35 น. เดินทางโดยสายการบิน EMIRATES EK 0016 สนามบิน London Gatwick , United Kingdom ถึง สนามบิน Dubai , United Arab Emi ประเทศดูไบ
วันที่ 13 ธ.ค. เวลา 00.40 น. โดยตรวจตรวจหาเชื้อโควิด โดยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทาง 1 วัน
(12/12/2564) ผล ไม่พบเชื้อ และได้เปลี่ยนเครื่องที่สถานบินที่ประเทศดูไบ
13 ธ.ค.64 เวลา 03.05 น. เปลี่ยนเครื่อง เดินทางจาก สนามบิน Dubai , United Arab Emi โดยสายการบิน EMIRATES EK 0384 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
วันที่ 13 ธ.ค. เวลา 12.05 น. โดยตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผล ไม่พบเชื้อ
13 -15 ธ.ค.64 – เข้าพักที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ โฮล 2 คืน ( โรงแรมตามมาตรฐาน SHA Plus )
15 ธ.ค.64 – เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ โดยเครื่องบิน TG2160 ถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 12.00 น.
– มีเพื่อนชาวต่างชาติจำนวน 3 คน และพนักงานขับรถตู้จ้างเหมา จำนวน 1 คน มารอรับที่สนามบินเชียงใหม่ และเดินทางมาเชียงราย โดยแวะปั๊มน้ำมัน ในเขต แม่ขะจานเป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
– เวลาประมาณ 15.00 น. แวะวัด ในเขตอำเภอเมืองเชียงราย เป็นเวลาสั้นๆ โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
– 18.00 น. ถึงเชียงของ จ.เชียงราย เข้าพักที่โรงแรม ในเขตอำเภอเชียงของ /ทานอาหารเย็นร้านใกล้โรงแรม ในอำเภอเชียงของ
– เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ซื้อที่ตรวจ ATK ที่ร้านขายยาในอำเภอเชียงของ ตรวจ ATK ด้วยตัวเองให้ผล พบเชื้อ
วันที่ 15/12/2564 16 ธ.ค.64
– ตอนเช้า ตรวจ ATK ด้วยตัวเองอีกครั้งให้ผล พบเชื้อ เดินทางมา รพร.เชียงของ เพื่อเข้ารับการรักษา อุณหภูมิแรกรับ 38.7 องศา O2Sat 98 % ประสานส่งตัวไปรักษา รพ.เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ เชียงราย เพื่อรักษาและตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ผล พบเชื้อ และได้ส่งตัวอย่างไปตรวจหา สายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย (ผลเบื้องต้น เข้าข่าย OMICRON จึงส่งตรวจเพื่อยืนยันอีกครั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อยู่ระหว่างรอการแจ้งผลยืนยันอย่างเป็นทางการ)
– . คณะที่มาด้วยอีก 4 คน (เพื่อนชาวต่างชาติ 3 คน พนักงานขับรถ 1 คน) ตรวจ ATK วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่ รพร.เชียงของ ผล ไม่พบเชื้อทั้ง 4 คน และได้ส่งไปกักตัวที่สถานทูต ที่ กทม. โดยรถตู้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564
ปัจจุบันอยู่ในสถานกักตัวเรียบร้อย ส่วนพนักงานขับรถตู้ได้เดินทางกลับเชียงใหม่ ทาง สคร.1 เชียงใหม่ ได้ติดตามตัวเพื่อตรวจ RT-PCR ผลการตรวจไม่พบเชื้อ และกักตัว ที่จังหวัดเชียงใหม่
> ไม่มี high risk contact ใน อ.เชียงของhigh risk contact 4 คน คือ เพื่อชาวต่างชาติ 3 คน กักตัวที่ กทม /พนักงานขับรถ กักตัวที่ จังหวัดเชียงใหม่ ผลตรวจ RT-PCR Negative (ไม่พบเชื้อ)
> มี low risk contact จำนวน 4 ราย (พนักงานโรงแรม 2 ราย /ร้านอาหาร 1 ราย /ร้านขายยา 1 ราย)ตรวจ ATK และ RT – PCR ผล Negative (ไม่พบเชื้อ) ทั้ง 4 ราย พร้อมสั่งกักตัว LQ ตั้งแต่ 17 ธ.ค.64ผู้ป่วย ปัจจุบัน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ อาการปกติ (กลุ่มสีเขียว)