เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมคณะทํางานศึกษาผลกระทบเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงลาวจีนและรถไฟรางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ณ ห้องพญาภักดีชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
จังหวัดเชียงรายได้มีคำสั่งจังหวัดเชียงรายที่ 504/2565 เรื่องแต่งตั้งประชุมคณะทำงานศึกษาผลกระทบเพื่อเตรียมครองรับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงลาว – จีนและรถไฟรางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ลงวันที่ 28 มกราคม เป็นการพัฒนาโครงข่ายและระบบการขนส่งทางรถไฟที่ช่วยลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ของประเทศสนับสนุนการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านสปป. ลาวและประเทศจีนตอนใต้ เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยได้มีการสำรวจเบื้องต้นและปรับปรุงการศึกษาความเหมาะสมทางวิศวกรรมประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจและการเงินเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2546 เป้าหมายเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งในอนาคตเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงทางสังคมเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจเสริมสร้างความมั่นคงความปลอดภัยและสร้างโอกาสสําหรับการแข่งขันและให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุดจากการเป็นประชาคมอาเซียน
โดยมี
สถานีรถไฟจำนวน 26 สถานี (13 สถานี 13 ที่หยุดรถ)
มีย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) จำนวน 1 แห่งที่สถานีเชียงของ
ลานบรรทุกสินค้าจำนวน 4 แห่ง ที่สถานีแพร่สถานีพะเยา สถานีป่าแดด และสถานีเชียงราย
สะพานรถไฟข้ามถนน / คลองแม่น้ำ 380 แห่ง
แก้ไขจุดตัดทางรถไฟกับถนนเดิมตามแนวเส้นทางของโครงการแบ่งเป็น 4 รูปแบบ
1. สะพานรถไฟข้ามถนน 380 แห่ง
2. สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 43 แห่ง
3. ทางลอดทางรถไฟ 102 แห่ง
4. ทางบริการขนานทางรถไฟ 43 แห่ง
มีเวนคืนที่ดินประมาณ 9,661 ไร่ (เขตทางกว้าง 50 ม.) มูลค่าโครงการรวม 85,345 ล้านบาท
ประกอบด้วย
-ค่าจ้างทป. สํารวจอสังหาริมทรัพย์ฯ 145 ลบ.
-ค่าเวนคืน 10,660 ลบ
-ค่าจ้างทป. ควบคุมงาน 1,604 ลบ
-ค่าก่อสร้าง 72,921 ลบ.
-ค่าจ้างทป. จัดการประกวดราคา 15 ลบ.
การรถไฟฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเริ่มสำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเวนคืนที่ดิน ก.ค. 2564 การรถไฟฯ จะเริ่มก่อสร้างกพ. 2565 ใช้เวลาสัญญาละ 72 เดือนจ. แพร่ แล้วเสร็จประมาณ กพ. 2571จ. พะเยา แล้วเสร็จประมาณ กพ. 2571จ. เชียงราย แล้วเสร็จประมาณ กพ. 2571
เศรษฐกิจโดยรวม (Regional Economy)
1. ช่วยกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวเศรษฐกิจในภูมิภาคและเศรษฐกิจของจังหวัดตามเส้นทางก่อสร้าง
2. ก่อให้เกิดการจ้างงานการซื้อขายวัสดุก่อสร้างการเข้าพักโรงแรม / ที่พักอาศัยการใช้บริการร้านอาหารและการ ซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคในท้องถิ่นระหว่างการก่อสร้าง
3 ด้านอุตสาหกรรมการผลิตจะได้รับผลดีจากเส้นทางการขนส่งขาไป (เชียงของ-เด่นชัย) ด้านการกระจายวัตถุดิบการผลิตจากจังหวัดภาคเหนือสู่อุตสาหกรรมผลิตที่มีที่ตั้งอยู่ทาคกลาง
4 ส่วนขากลับ (เด่นชัย-เชียงของ) ผู้ผลิตในภาคกลางจะได้รับประโยชน์จากการขนส่งสินค้าที่ถูก ลงในการเข้าถึงตลาดภาคเหนือและประเทศจีน
ด้านการคมนาคมขนส่ง (Transportation)
• เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาค
• เชื่อมต่อการขนส่งภายใต้นโยบายการค้าและการลงทุนของจีน Idu One Belt, One Road policy (OBOR)
• เชื่อมโยงเมืองหน้าด่านของระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor NSEC)
• เชื่อมต่อเส้นทางบก R3A (ไทย-สปป. ลาว-จีน) และ R3B (ไทย-เมียนมาร์)
• ช่วยประหยัดพลังงานประหยัดต้นทุนการขนส่ง
• การลดต้นทุนการขนส่งสินค้าเกษตรสู่ภาคอุตสาหกรรม
• ลดจำนวนรถบรรทุกขนาดใหญ่ลด การน่าเข้าน้ำมันดิบในปริมาณสูง
• ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
การค้าชายแดน (Border trade) ส่งผลต่อการเติบโตของมูลค่าการค้าชายแดนทําให้เกิดการส่งออกผ่านแดนมากขึ้น (เชียงของ)เชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนถ่ายสินค้าลงเรือที่ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน
ด้านการลงทุน (Direct investment) ช่วยส่งเสริมปัจจัยดึงดูดการลงทุนเนื่องจากรถไฟท่าให้ลดต้นทุนการขนส่งการเจริญเติบโตของความเป็นเมืองอย่างรวดเร็วและกระจายความเจริญไปสู่ชนบทได้ง่ายดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอีกด้วยทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการปรึกษาหารือในการให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับรถไฟที่จะเข้ามามีส่วนในการดำรงชีวิตของประชาชน ร่วมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเขามาในพื้นที่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น